Minions : The Rise of Gru ย้อนอดีตวายร้ายสุดแสบ กับแก๊งตัวเหลืองสุดป่วน

Minions : The Rise of Gru ย้อนวันวานความน่ารักของเจ้ามินเนี่ยน แก๊งบานาน่า และกรู บอสตัวจิ๋ว

Minions : The Rise of Gru การกลับมาอีกครั้ง ของเหล่ามินเนี่ยน นับตั้งแต่มีหนังเดี่ยว เป็นของตัวเองอย่างเรื่อง Minions (2015) ที่กวาดรายได้ไปมากกว่า 1,159 ล้านเหรียญ และหนังภาคหลักล่าสุดคือ Despicable Me 3 (2017) ที่ทำให้กลายเป็น เรื่องราวตัวเหลืองสุดวายป่วง ที่ครองใจคนทุกคน

และอยู่ในใจแฟนหนังอีกด้วย กับคาแรกเตอร์ชุดเอี๊ยมยีนส์ สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวสีเหลือง ยุคดึกดำบรรพ์ ที่ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า พวกเขากำเนิดมา บนโลกได้อย่างไร แม้ว่ามินเนี่ยนจะมีหลายนิสัย หลายตัว หลายชื่อ แต่สิ่งสำคัญคือ พวกเขามีเป้าหมายเดียวกัน ก็คือการรับใช้ จอมวายร้าย ในโลกใบนี้

การเจอบอสไม่ยาก แต่ยากตรงรักษา ชีวิตบอสให้ปลอดภัย ตั้งแต่ไดโนเสาร์ ฟาโรห์ แดร็กคูล่าร์ จนมาถึง Gru!! และมาถึงปีนี้ พศ.เจ้าเหลืองตัวน้อย กลับมาพร้อมกับความ วินาศสันตะโรฉบับใหม่ ที่จัดว่าเด็ดกว่าครั้งไหนๆ โดยสำหรับ Minions: The Rise of Gru ก็จะเป็นการเล่าเรื่องราว

ต่อจากภาคแรกเกี่ยวกับ เหล่ามินเนี่ยนที่หลังจาก ตามหาวายร้ายเพื่อ รับใช้มายาวนาน สุดท้ายก็ได้มาพบกับกรู เด็กชายตัวแสบ ที่ฝันว่าจะเป็นวายร้ายระดับโลก ซึ่งเหล่ามินเนี่ยน และกรูก็ต้องเผชิญกับ ศัตรูวายร้ายที่กำลัง ตามล่าพวกเขาอยู่

 เรื่องราวความวายป่วงสุดวุ่นวายของ Minions : The Rise of Gru

กรู (Gru) เด็กสุดแสบ ที่มีความฝันว่าอยากจะ เป็นสุดยอดวายร้าย งานนี้เหมือนฟ้าจะเห็นใจกรู เขาได้รับคำเชิญให้มา สัมภาษณ์เข้าร่วมเป็น สมาชิกคนใหม่ของ แก๊งวิเชียส 6 โฉด (Vicious 6) แต่สุดท้ายก็โดนเท เพราะความเด็กน้อย ของเขานั่นเองงานนี้ บอสตัวจิ๋ว อย่างกรูไม่ยอมง่ายๆ

เขาได้ขโมยอัญมณีล้ำค่า จากแก๊ง 6 โฉดมา ที่นำความชั่วร้ายโดย เบลล์ บอตทอม และแล้วเด็กตัวน้อย ที่ร้ายเกินวัยก็ถูก ดูแคลนเพราะว่าเขานั้น เด็กเกินไปที่จะร้าย และแล้วเรื่องราว ก็บานปลายเมื่อ กรูและเหล่าตัวเหลือง ขโมยสร้อยเหรียญนักษัตรมหากาฬ ที่มีอำนาจครอบครองโลก

ทำให้กรูนั้นต้องถูก ตามล่าโดยไอดอล ของเขาซะเองรอบนี้ กรู ก็ได้รับความช่วยเหลือ ต่างๆมากมายจาก แก๊งมินเนี่ยน ที่นำทีมโดย เควิน สตวร์ท และ บ็อบ ที่เหมือนจะช่วยแต่กลายเป็น ป่วนซะมากกว่า เพราะเจ้ามินเนี่ยนทั้ง 3 ต้องเข้ารับการฝึกกังฟู เพื่อช่วยบอสตัวน้อย ของพวกเขานั่นเอง

ระหว่างทางเราจะได้เห็น ความสัมพันธ์ของ เหล่ามินเนี่ยนที่มีความ จงรักภักดีต่อผู้เป็นนาย อย่างกรูแบบไม่มีเงื่อนไข แม้ว่าพวกมันอาจจะ บ้าๆบอๆและทำอะไร ผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อมองไปถึง เจตนาลึกๆแล้วพวก มินเนี่ยนพยายามจะ ช่วยเหลือกรูอยู่เสมอ ไม่ว่าจะในฐานะการทำภารกิจ

หรือเป็นเพื่อนในยามที่กรูโดดเดี่ยว แม้กรูอาจจะยังมองไม่เห็น ความสามารถของตัวเอง เพราะเขายังเด็ก และไม่รู้ว่าตัวของเขาเองนั้นมี ของมากแค่ไหน แต่เหล่ามินเนี่ยน ที่เห็นความเก่งกาจในตัวของกรู มาตั้งแต่ Minions ภาคแรก พวกมันจึงยอมที่จะเดินตาม คอยสนับสนุนกรูมาโดยตลอด

โดยสาระสำคัญของ บทหนังไม่มีก็อะไร มากไปกว่าการบอกให้ คนดูตระหนักได้ว่า หลายครั้งความสำเร็จที่แท้จริง ก็มาจากการเป็นทีมเวิร์ก และยังแอบใส่บทเรียน เรื่องความไว้ใจ ที่หลายครั้งก็ย้อนกลับมา ทิ่มแทงเราได้อย่าง เจ็บแสบเหมือนเรื่องราว ตอนต้นเรื่อง ซึ่งถือว่าหนัง เป็นตัวช่วยในการ สอนเรื่องความฉลาด ในการจัดการความสัมพันธ์ ได้ดีเลยทีเดียว

ดูแล้วจะต้องอมยิ้ม และหัวเราะไปกับความน่ารัก สุดแสบของแก๊งบานาน่า

เรื่องราวในหนัง ค่อนข้างจะยุ่งเหยิงพอสมควร แน่นอนเพราะว่ามันคื มินเนี่ยน มีการแยกย้ายกันทำภารกิจ ความผิดพลาดที่ทำให้เจอปัญหาใหม่ มีการพลัดหลงและ การหากันจนเจอ แต่โดยรวมมันก็คือ การร่วมแรงร่วมใจกัน ทำสิ่งเดียวกันให้มันสำเร็จ ซึ่งกรูจะได้เรียนรู้ว่า เขาตัวคนเดียว ไม่อาจทำได้ทุกอย่าง

การพึ่งพาลูกสมุน และเชื่อใจพวกเขา เป็นส่วนสำคัญที่จะ นำพาให้ภารกิจสำเร็จด้วยดี แทบจะทั้งเรื่อง ทีมงานและผู้กำกับ พยายามใส่มุกเปิ่นๆ บื้อๆของเหล่ามินเนี่ยน ให้เราได้ฮากันไม่ยั้ง บางมุมก็เล่นกับ ความมุ้งมิ้งขี้อ้อน ให้ต่อมหัวเราะทำงานกันไม่หยุด แม้พล็อตจะไม่ได้แปลกใหม่ แต่มันก็คงไม่สำคัญ

และไม่ใช่สิ่งที่ผู้ชมคาดหวัง เพราะเสียงหัวเราะ จากแต่ละมุกที่ได้ มันน่าจะมากพอให้ พวกเขาอารมณ์ดี กับหนังมากพอแล้ว ครึ่งแรกของหนังอาจจะ มีฉากให้ฮากันเยอะหน่อย ก่อนที่ครึ่งหลังความฮา อาจลดลงไปเพราะ ต้องให้เวลากับฉากแอคชั่น กับภาพสีสันสวยๆ น่าจะเป็นภาคที่เชื่อมต่อ ไปยังภาคหลักอย่าง Despicable Me ได้เป็นอย่างดี

ทีมผู้สร้าง Minions: The Rise of Gru ที่มาพร้อมสไตล์นำเสนอแบบ อิลลูมิเนชั่น

สำหรับในภาคนี้ ทางสตูดิโอผู้สร้างอย่าง Illumination Entertainment ได้ผู้กำกับมาเป็นแพ็คถึง 3 คนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ไคล์ บัลดา (จาก Minions), แบรด อเบลสัน (จากหนังสั่น Yellow Light) และ โจนาธาน เดล วัล (จาก The Secret Life of Pets 2)

กลายมาเป็น 3 สไตล์ที่ลงตัวแบบบอกไม่ถูก ในตัวเนื้อเรื่องของ Minions: The Rise of Gru ยังคงเน้นไปที่ความวายป่วง ความซุกชนของ สมุนตัวน้อยอย่าง แก๊งมินเนี่ยนทั้ง 3 เหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือ เราจะได้เห็นความสัมพันธ์ ของตัวละครที่มากขึ้น ที่มาที่ไปกว่าที่ เหล่ามินเนี่ยนจะมาเป็น

ลูกสมุนของจอมวายร้ายใน มิสเตอร์แสบร้ายเกินพิกัด (Despicable Me) ในส่วนของงานภาพทาง อิลลูมิเนชัน ยังคงคุณภาพได้ดีตามเดิม ถือว่ายังคงมารฐานเอาไว้ มีการแอบใส่ Ester Egg ให้เราได้นึกย้อนไป ถึงหนังเรื่องต่างๆ ในแฟรนไชน์ของ หนังเรื่องนี้ทั้ง สการ์เล็ต โอเวอร์คิลล์ (Scarlet Overkill)

จากมินเนี่ยนภาคแรก วิกตอร์ (Victor) คู่ปรับตลอดกาลของกรู และมีการผสมผสาน เรื่องความเป็น วัฒนธรรมเอเชีย ใส่เข้าไปค่อนข้าง เยอะพอสมควร ทั้ง 12 นักษัตร วันตรุษจีน การเชิดสิงโตในเทศกาลต่างๆ

ข่าวสารน่าสนใจเพิ่มเติม : The Sea Beast มังงะ แทงบอลออนไลน์