Pom Poko “ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก” การ์ตูนแห่งค่าย Studio Ghibli อนิเมชั่นต้องดู

Pom Poko “ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก” ผลงานอนิเมชั่นสุดหรรษา ลำดับที่ 7 จาก Studio Ghibli

Pom Poko “ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก” ภาพยนตร์อนิเมชั่นแฟนตาซีญี่ปุ่น โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้เขียนบทและกำกับโดย “อิซาโอะ ทาคาฮาตะ” อนิเมชั่นต้องดู From Up On Poppy Hill จาก Studio Ghibli มีชื่อทางการว่า Heisei Tanuki Gassen Ponpoko ( 平成狸合戦ぽんぽこ ) หรือ The Raccoon War (Heisei-era Raccoon Dog War Pom Poko) ได้ออกฉายในปี ค.ศ. 1994

และความหมายของคำว่า “Pom Poko” ในชื่อเรื่องหมายถึง เสียงของทานูกิ หรือแรคคูนพันธุ์หนึ่งในญี่ปุ่น เป็นสัตว์ที่มีความเป็นกันเอง เชื่องและซุกซนมาก มีจุดเด่นคือที่ ถุงอัณฑะของพวกมัน สอดคล้องกับคติชนวิทยา ชาวญี่ปุ่นตามตำนาน นิทานพื้นบ้านเชื่อว่า เผ่าพันธุ์ทานูกินั้น

สามารถใช้ “ศาสตร์แห่งภาพลวงตา” เพื่อแปลงร่างให้ตัวเอง เป็นอะไรก็ได้เกือบทุกอย่าง เหมือนกับเหล่าคิดซูเนะ หรือจิ้งจอกแปลงกายนั่นเอง และยังมีสัตว์อื่นๆอีกบางประเภท ก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งทานูกิ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า มีความฉลาดมากกว่าสัตว์ทั่วไป ตามความเชื่อนั้น

ทานูกิสามารถ แปลงร่างเป็นสิ่งต่างๆได้ บ้างก็แปลงเป็นมนุษย์ ผี หรือสิ่งของ ไปจนถึงของใหญ่ๆ อย่างตึกราบ้านช่อง ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า ทานูกิจะคอยกลั่นแกล้งคน เพื่อเป็นการขู่ ไม่ให้พวกมนุษย์มารุกราน ในพื้นที่ป่าของพวกมัน ซึ่งทาง Studio Ghibli เองก็ได้หยิบยก เรื่องราวนี้มาทำเป็น อนิเมชั่น 

แบบยาวตอนเดียวจบ ดูซีรี่ย์ เรื่อง “ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก” นั่นเองโดยในเรื่อง จะเป็นการบอกเล่า เกี่ยวกับมุมมอง ของเหล่าทานูกิ ที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ในยุคสมัยที่มนุษย์เป็นใหญ่ เพราะว่าในเรื่อง จะมีฉากที่เหล่าทานูกิ ที่ไม่สามารถแปลงกายได้ จึงทำให้ยังต้อง ออกไปคุ้ยเศษอาหาร

โดยที่พื้นที่เหล่านั้น ปัจจุบันเป็นถนน ที่มีรถสันจรไปมา ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ทานูกิโดนรถชนตายไปมากมาย ในขณะที่ทานูกิตัวอื่นๆ ก็ย้ายถิ่นฐาน กระจายออกไปสู่ชนบท ที่ความเจริญยังเข้าไปไม่ถึง แต่ก็ต้องไปแก่งแย่ง อาหารทานูกิเจ้าถิ่น เรียกได้ว่าแทบจะ ไม่มีหนทางอยูรอดเลย สำหรับทานูกิหรือ สัตว์อื่นที่ไม่สามารถ แปลงร่างอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้

เรื่องราวของแก๊งทานูกิสุดป่วนใน Pom Poko “ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก”

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1960-1969 ยุคโชวะ ในช่วงยุคที่เศรษฐกิจ ของญี่ปุ่นนั้นมีความเจริญถึงขีดสุด ส่งผลให้มนุษย์นั้น ต้องการขยายถิ่นที่อยู่กันมากขึ้น ทำให้พื้นที่แถบภูเขา ค่อยๆถูกเปลี่ยนเป็นโครงเมืองใหม่ โดยตั้งชื่อโครงการเมืองใหม่ว่า “ทามะนิวทาวน์” บริเวณแถบเนินเขาทามะ ชานเมืองของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

แต่ก็อย่างที่รู้กันดีกว่า ความเจริญของมนุษย์ ที่ต้องแลกกับป่าไม้ และธรรมชาติที่หายไปทุกๆวัน ซึ่งเหล่าฝูงทานูกิ ที่อาศัยอยู่ในป่า ที่เวลาอยู่นอกสายตาของมนุษย์ แล้วพวกเหล่าทานูกิ ก็จะกลายเป็นอีกแบบหนึ่ง ที่สามารถพูดได้ แล้วก็ยืนสองขา คล้ายกับมนุษย์ได้ด้วย แต่แล้ววันหนึ่ง ก็ได้เกิดการถางป่าและภูเขาขึ้น

ก็ทำให้พื้นที่ป่านั้น ค่อยๆหายไปทีละน้อย จึงทำให้พวกทานูกิ ต้องสู้และช่วยกันหาวิธี การที่จะเอาป่ากลับมาให้ได้ โดยพวกทานูกิปกติแล้ว จะอยู่กันเป็นหลายกลุ่ม แต่เพื่อร่วมมือกัน ที่จะเอาป่ากับมานั้น ก็ได้รวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มเดียว และวางแผนกันเพื่อที่จะเอาชนะ และได้ป่าที่สวยงามกลับคืนมา

ดังนั้นเหล่าทานูกิ ในแถบเขาทามะ ต้องรับมือกับการ เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เมื่อสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เข้ามาแทนสถานที่ ที่พวกเขาเคยอยู่อาศัย อาหารก็เริ่มลดน้อยลง จนทำให้พวกเขา ต้องมาปรับเปลี่ยน เพื่อเอาตัวรอดแทน เหล่าทานูกิอาวุโส ถึงขั้นต้องเรียกประชุมหาลือกัน อีกทั้งร่วมกัน

วางแผนโครงการ 5 ปีข้างหน้า เกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อหาหนทาง รับมือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้จะได้เห็นถึง ความคิดที่แตกต่างกัน ระหว่างคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นเก่าในการ รับมือสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งตัวละครหลักก็จะมี “กอนตะ” ทานูกิผู้ชอบใช้วิธีรุนแรง คิดว่าการต่อสู้ ให้หักกันไปข้างหนึ่ง

เป็นวิธีที่ดีที่สุด “ผู้เฒ่าทสึรุกาเม” ทานูกิอาวุโส ที่เป็นที่น่านับถือในเหล่าทานูกิ คอยชี้แนะตามหลังผู้ใหญ่กว่า ที่จะมาจากเมืองอื่น และ “โชกิชิ” ทานูกิรุ่นใหม่ผู้ใช้วิธีแปลงร่าง ไปหลอกหลอนมนุษย์ ที่สื่อให้เห็นถึง ธรรมชาติของโลก ที่หายไปโดยการ ทำลายป่าโดยฝีมือ ของมนุษย์เรานั่นเอง

“ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก” หนึ่งผลงานอนิเมชั่นดีๆ จากสตูดิโอจิบลิที่ทุกคนไม่ควรพลาด

เรียกว่าเป็นการ์ตูนที่ สามารถดูได้ทุกเพศทุกวัย แต่ยิ่งโตเราก็จะยิ่งดูเรื่องนี้ ในมุมมองที่ลึกซึ้งมากขึ้น ซึ่งในเรื่องจะมีเนื้อหา ในเชิงสัญลักษณ์ แฝงอยู่เยอะไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเป็นการ บ่งบอกถึงการคืบคาน เข้ากลืนกินชีวิต ที่เรียบง่ายของเหล่าทานูกิ รวมถึงการล่มสลาย ของวัฒนธรรมหลายๆอย่าง

ของท้องถิ่นที่ต้องหายไป กับการความเจริญที่เข้ามา หรือแนวคิดสอดแทรก เชิญชวนอยากให้เรา หันมารักธรรมชาติกันมากขึ้น เป็นภายนตร์ที่สามารถ เป็นแรงบันดาลใจ ให้มนุษย์คำนึงถึง ทานูกิและสัตว์อื่นๆ ที่อาศัยดำรงเผ่าพันธุ์ อยู่ในป่าก่อนแล้ว มีจิตสำนึกด้วยการ ไม่ทำลายป่าไม้

ไม่รุกล้ำพื้นที่อยู่อาศัยของพวกเขา เป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นอันดับหนึ่ง ในตลาดประเทศญี่ปุ่นปี 1994 มีรายได้ 2.63 พันล้านเยน จากการจัดจำหน่าย และทำรายได้รวม 4.47 พันล้านเยน และภาพยนตร์เรื่องนี้ มีคะแนนคำวิจารณ์ ในเกณฑ์ที่สูงถึง 83% จากเว็บไซต์ วิจารณ์ภาพยนตร์ อย่าง Rotten Tomatoes

เรียกว่าตัวของเนื้อเรื่องเอง ก็ได้มีการแสงทั้งปรัชญา และสะท้อนให้เห็น ถึงความเป็นจริง ในสังคมมนุษย์ยุคปัจจุบัน ที่มีการพัฒนา และต้องฝึกฝน กับการเข้าสังคมอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะการปรับตัว ที่จำเป็นมากตั้งแต่สมัยเด็กๆ จนไปถึงวัยทำงาน สิ่งนี้ก็ยังนับว่าเป็น สิ่งที่สำคัญอยู่ดี แต่บางครั้งก็อยู่ในมุม ของการตลกร้าย ในแบบที่วัยผู้ใหญ่ ก็คงจะเข้าใจเรื่องนี้กันเป็นอย่างดี

ทานูกิผู้พิทักษ์ธรรมชาติบริสุทธิ์ด้วยชีวิต สอดเเทรกความน่ารักที่ต้องอมยิ้มตามสไตล์จิบลิ

ผู้กำกับ “อิซาโอะ ทาคาฮาตะ” ได้สะท้อนวิถีชีวิตดั้งเดิม ซึ่งถูกแทนที่ด้วย วิถีเมืองอย่างเต็มรูปแบบ ป่าไม้บนภูเขา ถูกหักโค่น และแผ้วถางลูกแล้วลูกเล่า และทานูกิไม่ได้เป็น สัตว์ป่าที่ถูกทำร้าย จากการขยายเมือง เพียงชนิดเดียวแต่ยังมี สัตว์อื่นๆอีกมากที่ ลดจำนวนลงไปเพราะเหตุนี้

แต่ในประเทศญี่ปุ่นเอง ก็มีต่อรูปปั้นที่เรียกว่า “Gankake Tanuki ” (ทานูกิผู้ให้พร) ที่เรามักจะเคยเห็นกันอยู่บ่อยๆ จะเป็นรูปปั้นทานูกิสวมหมวกฟาง มือข้างนึงถือขวดเหล้าสาเก และอีกข้างถือถุงเงิน ตั้งประดับอยู่ตามหน้าร้านเหล้า ร้านอาหาร หน้าวัด หรือศาลเจ้า

ถือเป็นสัญลักษณ์ แห่งความโชคดีในด้านต่างๆ ทั้งความสุข คู่ครอง การเงิน การเดินทาง ความสำเร็จ การศึกษา สุขภาพ และความรัก  รูปปั้นทานูกิ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น เป็นผลิตภัฑ์จาก จังหวัดชิกะ ซึ่งรูปปั้นดินเผานี้มีชื่อว่า “ชิการากิยากิ” (信楽焼き) ผลิตที่เมืองชิการากิ จังหวัดชิกะ ประเทศญี่ปุ่น

ข่าวสารเพิ่มเติม : แทงบอลโลก