Spider-Man : No Way Home โอกาสที่สองของทุกจักรวาล ถูกใจคอหนังฮีโร่มาร์เวล

Spider-Man : No Way Home บู๊สะใจ การเป็นผู้ใหญ่ขึ้นของ “ปีเตอร์ พาร์คเกอร์”

Spider-Man : No Way Home นี่เป็นครั้งแรกที่ Spider-Man ไม่ต้องซ่อนตัวภายใต้หน้ากากอีกต่อไป และเขาไม่สามารถ แยกชีวิตในฐานะซูเปอร์ฮีโร่ ออกจากชีวิตปกติได้อีกต่อไป เมื่อเขาไปขอให้ ด็อกเตอร์สเตรนจ์ช่วยเหลือ แต่มันกลับกลายเป็นวุ่นวายกว่าเดิม บังคับให้เขาต้องหาทาง แก้ไขและหาความหมาย ของการเป็น สไปเดอร์แมน หนังเรื่องนี้จะแนะนำ สิ่งที่เรียกว่า Multiverse ในจักรวาลมาร์เวล อย่างเป็นทางการพร้อมๆ กับวายร้ายจากทั้ง

“Spider-Man” และ “The Amazing Spider-Man” ก็จะมาปรากฎตัวด้วยเช่นกัน ดูเหมือนว่าชะตากรรม ของเพื่อนบ้านผู้แสนดีอย่าง สไปเดอร์-แมน จะเริ่มขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นทุกๆทีหลังจากที่ รับงานฮีโรระดับเบอร์รอง มาแล้วใน 2 ภาคก่อน ภาคนี้ที่เป็นหนัง ในช่วงต้นของ MCU ในเฟส 4

ที่กำลังเดินหน้าปูพื้นเรื่องราวแบบ พหุจักรวาล หรือ มัลติเวิร์ส (Multiverse) เพื่อขยายขอบเขต วิธีการเล่าเรื่องให้กว้าง กว่าแนวแอ็กชันแบบเดิม ซึ่งตอนนี้มีซีรีส์ใน Disney+ ที่ปูพื้นเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้วทั้ง Loki และแอนิเมชัน What If…?  ซึ่งซีรีส์ทั้งสองเรื่องนี้ เป็นตัวสรุปอย่างชัดเจนว่า

มัลติเวิร์สคือแกนหลักสำคัญ และความโกลาหล ครั้งใหญ่ที่เหล่าฮีโร่ ต้องรับมือให้ได้ ซึ่งในหนังเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนว่าความโกลาหล นั้นได้ปรากฏชัดขึ้น เป็นรูปเป็นร่างแล้ว และไอ้แมงมุมก็ถือว่า เป็นฮีโรตัวแรกๆ ที่ต้องรับผลแห่งความ โกลาหลนี้แบบชัดๆ

Spider-Man

Spider-Man : No Way Home เรื่องราวภาคต่อที่ภาค Far Form Home ทิ้งเอาไว้

เรื่องราวในภาคนี้ ก็จะเล่าต่อจาก End Credits ตัวแรกที่ทิ้งเอาไว้ ในภาคก่อนหน้า (Spider-Man: Far From Home (2019) ซึ่งถ้าใครที่ยังไม่ได้ดู ก็ต้องขอให้ไปดูก่อนเลยให้เรียบร้อย เพราะว่าเนื้อเรื่องของภาคนี้ จะเริ่มต้นมาจาก End Credits ตัวนั้นหลังจากที่ สไปเดอร์แมน

สามารถโค่น “มิสเทริโอ” (Jake Gyllenhaal) ได้สำเร็จ มิสเทริโอก็วาง ระเบิดตูมสุดท้ายด้วยการ ปล่อยคลิปเฟกนิวส์ผ่านจอ LED ที่กล่าวหาว่าปีเตอร์ เป็นคนสังหารเขาอย่างป่าเถื่อน กล่าวหาว่าปีเตอร์โอ่อ้าง จะเป็นไอรอนแมนคนถัดไป ข่าวนี้ยังไปถึงหู “เจ. โจนาห์ เจมส์สัน” (J.K. Simmons)

นักข่าวสำนักข่าวออนไลน์ TheDailyBugle.net ออกมาแฉ จากข้อมูลของมิสเทริโอ จนทำให้คนทั้งโลก รู้กันไปทั่วว่าสไปเดอร์แมน คือ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ และในภาคนี้ แน่นอนว่า ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เพื่อนบ้านที่แสนดี ถูกภัยเฟกนิวส์ตราหน้า จนทำให้ใช้ชีวิต ยากลำบากกว่าเดิม แถมพาให้คนรอบข้าง

ทั้งคนรักอย่าง เอ็มเจ (Zendaya) เพื่อนซี้สาย Geek อย่าง เน็ด ลีดส์ (Jacob Batalon) และ ป้าเมย์ (Marisa Tomei) ต่างพากันเดือดร้อนกันไปด้วย ปีเตอร์เลยจำต้องไป ขอความช่วยเหลือ กับหมอแปลก “ดอกเตอร์สเตรนจ์” (Benedict Cumberbatch) เพื่อให้ช่วยร่ายมนต์ ลบความทรงจำของผู้คนว่า

ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ คือ สไปเดอร์-แมน แต่ด้วยความ ผิดพลาดบางอย่าง ผลก็คือทำให้วายร้าย จากมัลติเวิร์ส หลุดเข้ามาปั่นป่วน โลกของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ ระดับจักรวาล

“สไปเดอร์แมนที่ดีที่สุดอีกเรื่อง” เอาใจคอหนังฮีโร่มาร์เวลที่สุดในรอบ 20 ปี

Spider-Man

การดำเนินเรื่อง ในภาคนี้ก็ยังคงมีรสชาติ กลิ่นอาย และธีมของหนังจากภาคก่อนๆอยู่ โดยเฉพาะองก์แรก ซึ่งผู้กำกับอย่าง “จอน วัตต์ส” (Jon Watts) ที่รับเหมากำกับแฟรนไชส์ หนังชุดนี้มาจน กลายเป็นไตรภาคแล้ว ก็ยังคงคุมสีสัน ความเป็นหนังวัยรุ่น ที่แฝงเรื่องราวแบบฉบับ ของวัยว้าวุ่น สิบห้าหยกๆสิบหกหย่อนๆ

มุกฮาๆ วีรกรรมสุดห่าม และหนังสไตล์ Coming Of Age ซึ่งพอมาถึงภาคนี้ ต้องชื่นชมวิธีการเล่าเรื่อง เป็นอย่างแรกเลย เพราะว่าตัวหนังสามารถ ไต่ระดับการเล่าจากเล็กไปหาใหญ่ และใหญ่ระดับจักรวาล ได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนมาก นั่นอาจจะทำให้การเดินเรื่อง ในตอนแรกช้าอยู่บ้าง โดยมีฉากแอ็กชั่น

คอยกระตุ้นกราฟอยู่เนืองๆแต่ตัวบท ก็ถือว่าทำได้ไหลลื่น ไม่สะดุดตรงไหนให้กวนใจเลย เรียกได้ว่าภาคนี้เป็นการ รวมเหล่าร้ายของจักรวาล สไปเดอร์แมนที่เคย สร้างมารวมไว้ด้วยกันเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะทั้งจาก Spider-Man และ The Amazing Spider-Man ที่ตัวร้ายหลักๆมีถึง 5 ตัวเลยทีเดียว

และไม่ใช่แค่รวมตัวร้าย แต่ยังรวมสไปเดอร์แมนทั้ง 3 คน มาไว้ด้วยกันในภาคนี้ด้วย ทั้ง โทบีย์ แมไกวร์ จาก Spider-Man และ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ จาก The Amazing Spider-Man สไปเดอร์แมนทั้ง 3 ต้องร่วมกันต่อสู้ เพื่อเอาชนะเหล่าตัวร้ายทั้ง 5 ฉากบู๊มันส์มาก จังหวะตลกแทรกได้ชวนขำ และดร.สเตรนจ์เหมือน กลายมาเป็นคุณพ่อคนใหม่ ของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ไปแล้ว

Spider-man: No way home บอกเลยว่าเป็นหนังซูเปอร์ฮีโรอีกเรื่องที่คุ้มค่ากับการดูมากๆ

Spider-Man

จากจอมเวทย์มือใหม่ สู่การเป็นยอดจอมเวทย์ผู้เก่งกาจ ดร.สเตรนจ์ คือหนึ่งในคีย์ของทีม Avenger ในการสู้ศึกธานอส นักดีดนิ้ว ความสามารถของเขาได้รับการขัดเกลา จนสามารถท่องเวลา หาความเป็นไปได้หลายล้านรูปแบบ จนเอาชนะธานอสมาได้ และยิ่งในตอนนี้ หากการเข้าไปในมัลติเวิร์สของ ดร.สเตรนจ์

ไม่ได้มาจากพลังของ “มณีเวลา” หรือ Eye of Agamotto แต่เป็นพลังของเขาเอง ก็เท่ากับว่า ความสามารถของ หมอแปลกในตอนนี้ ก็น่าจะเท่ากับแอนเชียนท์ วัน เผลอๆอาจจะเก่งเกินกว่า ที่เราจะเข้าใจได้ไปซะแล้ว เพราะแม้แต่ แอนเชียนท์ วัน เองก็เคยกล่าวว่า ดร.สเตรนจ์ คือจอมเวทย์ที่เก่งที่สุด

หนังแนะนำ : Suicide Squad มังงะ