The Batman 1 : ฆาตกรรมรำลึก อาชญากรรมสืบสวนของอัศวินรัตติกาล ที่สุดแสนจะมืดมน

The Batman 1 : ฆาตกรรมรำลึก หนังฮีโร่ไขคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ของอัศวินรัตติกาล แห่งเมืองก็อตแธม

The Batman 1

The Batman 1 ถ้าหากพูดถึง ซูเปอร์ฮีโร่ค่ายดีซี ก็คงที่จะไม่มีใคร ไม่รู้จักแบทแมน ด้วยเพราะเขาคือตัวละคร ซูเปอร์ฮีโร่ฝั่งของดีซี ที่มีผู้คนจดจำมากที่สุด จากจำนวนภาค ที่ได้รับการสร้างก็คงพอบอกได้ว่า แฟนๆหนังให้การตอบรับ เป็นอย่างดีทีเดียว ซึ่งวันนี้จะเป็น เรื่องราวของ บรูซ เวยน์ ถูกหยิบมานำเสนอใหม่อีกครั้ง ในชื่อ “The Batman” ที่ในเมืองก็อตแธม เป็นเมืองใหญ่ที่มีเรื่อง ปัญหาอาชญากรรม และยาเสพติดมากมาย แหล่งเสื่อมโทรมก็มีไม่น้อย

วายร้ายก็เต็มเมืองเช่นกัน พร้อมทั้งฆาตกร ที่ทั้งต่อเนื่องและโรคจิตอย่าง Riddler (พอล ดาโน) อาละวาดอย่างหนัก ก่อเหตุสะเทือนขวัญ สังหารโหด ทำให้นายตำรวจอย่าง เจมส์ กอร์ดอน (เจฟฟรีย์ ไรท์) ที่สนิทสนมกับ แบทแมน (โรเบิร์ต แพททินสัน) จนถึงกับต้องเรียก ให้มาร่วมช่วยไขคดี

ท่ามกลางความไม่ชอบใจ ของเหล่าเพื่อนตำรวจ และในระหว่างนั้นเอง บรูซ เวย์น ในคราบของแบทแมน ก็ได้พบกับสาวสวย ผู้เป็นทาสแมวนาม เซลินา ไคล์ (โซอี้ คราวิทซ์ ) หญิงสาวผิวสี ที่กำลังสืบสาวเรื่องราว การตายของเพื่อนสาว ยิ่งเมื่อสืบคดีกันไป เขาก็ยิ่งได้พบว่าเงื่อนงำ ของมันถูกโยงใย

ไปยังหลายตัวละคร ขุดเอาความเน่าเฟะ ของเมืองก็อตแธม ปัญหาคอร์รัปชัน และปัญหาต่างๆนานา ขึ้นมาวางกองตรงหน้า ครั้งนี้แบทแมน ไม่ใช่แค่ฮีโร่ที่คอย ปราบเหล่าร้ายเท่านั้น เขายังต้องไขคดี ฆาตกรรมต่อเนื่องนี้ ให้ออกอีกด้วย

The Batman 1 จุดเด่นของเรื่องแบทแมนฉบับนี้ ที่กลายเป็นหนังฆาตกรรมสืบสวนสอบสวน 

The Batman 1

สิ่งที่ทำให้แบทแมน ในฉบับนี้น่าสนใจมากขึ้น ก็คงจะต้องชื่นชมทาง แมตต์ รีฟส์ (Matt Reeves) ในฐานะผู้กำกับเลย ก็คือความแน่วแน่ ในการนำเสนอให้หนังแบทแมน ฉบับนี้กลายเป็น หนังฆาตกรรมสืบสวนสอบสวน และการนำตัวละคร ที่คนดูคุ้นชื่อคุ้นหูคุ้นตา มาเดินวนเวียนในก็อตแธม

ฉบับชื้นแฉะที่สุดเวอร์ชันหนึ่ง ก็ทำให้ภาพเวอร์ชั่น แฟนตาซีของหนังฮีโร ค่อยๆถูกชะล้าง แล้วแทนที่ด้วยกลิ่นคาวเลือด และปริศนามรณะที่ เชื้อเชิญคนดูให้ค่อยๆ คลายปมทีละปม ไปกับบรูซ เวย์น ซึ่งบทที่รีฟส์ ผู้กำกับได้ร่วมเขียนกับ ปีเตอร์ เครก (Peter Craig) ก็แสดงให้เห็นว่า รีฟส์และเครก

ไม่เพียงต้องการสร้างให้ บรูซ เวย์น เป็นแค่ร่างทรงของแบทแมนเท่านั้น ตรงกันข้ามเพราะ หัวใจของเรื่องคือ บรูซ เวย์น และเรื่องราวในตระกูลเวย์นเอง ก็กลายเป็นกุญแจดอกสำคัญ ที่ให้คำตอบว่าทำไม ก็อตแธมถึงกลายเป็น เมืองที่พระเจ้า หันหลังให้ได้ขนาดนี้ และที่สำคัญมันยังคง หัวใจของเมืองก็อตแธม

ที่ว่าเมืองที่คอรัปชั่น มักจะกัดกินมันและ จะสร้างฆาตกรขึ้นมา และจุดของหนังที่ เรียกได้ว่าเด่นมากๆ ก็คือการเพิ่มความสมจริง เข้าไปในเรื่องราว โดยเฉพาะความสัมพันธ์ ระหว่างแบทแมน กับตำรวจที่ไม่สู้ดีนัก และมันก็ดันมีเหตุผล รองรับซะด้วยว่า ถ้าหากมีศาลเตี้ย อย่างแบทแมนแล้ว ตำรวจที่บังคับใช้กฎหมาย

อย่างพวกเขาจะถูกมองว่า เป็นเพียงอาชีพที่ มีไว้ประดับให้เมือง ดูมีความปลอดภัย แต่ทว่าก็ดันเกิด เหตุฆาตกรรมและ กลิ่นอายความคดโกง ของคนในเครื่องแบบ ก็ส่งกลิ่นเหม็นเน่า จนทำให้เกิดเหตุฆาตกรรม เพื่อต่อสู้กับระบบเกิดขึ้น!

THE BATMAN งดงามและน่าจดจำ มีบทอันเฉียบคมและการดำเนินเรื่องสุดเข้มข้น!

สำหรับเรื่องบท และการดำเนินของเรื่อง เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้ ทำสองส่วนนี้ออกมา ได้สุดยอดมากๆ ด้วยบทที่เฉียบคม ไดอะล็อคที่ตัวละคร ที่พูดออกมามีการแฝงนัยยะ ซ่อนไว้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่คมคาย การที่ทำบทออกมา ให้เป็นแนวสืบสวนสอบสวน และตัวร้ายหลักอย่าง เดอะริดเลอร์ ที่ชอบเล่นเกมส์ปริศนา

ซึ่งมันเหมาะ กับธีมสืบสวนสอบสวนเอามากๆ ให้รสชาติและความรู้สึกใหม่ๆ ที่เราอาจจะไม่เคยได้รับจาก ภาพยนตร์แบทแมน เวอร์ชั่นไหนมาก่อน ต้องยอมรับความสามารถ ในตัวผู้กำกับเลยที่ กล้าจะสร้าง เส้นทางเดินใหม่ให้กับ หนังซูเปอร์ฮีโร่ แถมยังทำออกมา ได้ดีอีกด้วยเพราะเรื่องนี้

มาแบบโทนจริงจัง กดดัน ลุ้นระทึก ในส่วนของบทและ การดำเนินเรื่องของ ภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือว่าดีมากๆ แบทแมนเวอร์ชันนี้ อาจจะไม่ได้มีฉาก แอคชันมากมายนัก แต่ก็ไม่ได้ขาดแคลน จนไม่เหลือเค้าโครง ของความเป็น หนังซูเปอร์ฮีโร่ ที่เรื่องราวเน้นหนักไปที่ ด้านการสืบไขคดี ฆาตกรรมต่อเนื่อง

ที่ขุดรากถอนโคน ตีแผ่ประเด็นทางสังคม สาวไส้เรื่องการคอร์รัปชั่น ของคนบางกลุ่ม เรื่องความเหลื่อมล้ำ เรื่องชนชั้นในสังคม เปิดโปงการปกปิด ความชั่วร้ายภายใต้หน้ากาก แห่งความดีที่ผู้คน ไม่เคยได้รับรู้ เรื่องราวที่แทบจะ ไม่เจอว่าตัวละครใด ในเรื่องที่ดีสะอาดหมดจด เต็มไปด้วยความมืดมนที่แท้จริง

นักแสดงใน THE BATMAN ที่ขาดใครไปหนังคงจะไม่สนุกแน่ๆ

The Batman 1

ในส่วนของนักแสดงคนอื่น คงต้องบอกเลยว่า ถ้าหากขาดใครไป หนังคงจะจืดชืดแย่เลย ไม่ว่าจะทั้ง โซอี คราวิตซ์ (Zoë Kravitz) ในบท เซลินา ไคล์ ที่เธอเลือกเอาคุณสมบัติ ของแมวมาใช้ ออกแบบท่าทาง การเคลื่อนไหว ซึ่งต้องยอมรับเลยว่า ในนาทีนี้คราวิตซ์ น่าจะได้ขึ้นชั้นเป็น แคทวูแมน

ที่น่าจดจำในทันที ซึ่งมีทั้งเสน่ห์ และฝีมือการแสดง The Dark Knight และบรรดานักแสดงดัง ที่โผล่มาสวมบทบาทต่างๆ เช่น โคลิน ฟาเรล (Colin Farrell) ที่มาเป็นเดอะเพนกวิน ได้อย่างน่าสะพรึงกลัว และส่วนของ พอล ดาโน (Paul Dano) ในบท เดอะริดเลอร์ ที่โผล่ไม่เยอะ แต่ขยันสร้างภาพติดตา และเสียงหลอนติดหู

อีกทั้งจะเป็น แอนดี เซอร์กิส (Andy Serkis) ในบทอัลเฟร็ดเท่ๆ แต่แอบน้อยใจแล้วเป็น จอห์น เทอร์โทโร (John Turturro) ที่สลัดภาพนักแสดงตลก ในหนังพี่น้องโคเอนมาเป็น คาร์ไมน์ ฟัลคอน ที่ดูน่าเกรงขาม และอยู่เหนือกฎหมาย แบบเซอร์ไพร์สเอามากๆ และ เจฟฟรีย์ ไรต์ (Jeffrey Wright) ก็ได้สร้าง จิม กอร์ดอน ในแบบตัวเอง ได้น่าชื่นชมไม่แพ้กันทีเดียว

ข้อมูลดีๆ : มังงะ