Train to Busan “ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง” หนังซอมบี้ที่ดีที่สุด ลุ้นระทึกแทบลืมหายใจ

Train to Busan “ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง” ต้องหนีตายบนรถไฟความเร็วสูง จากเหล่าซอมบี้สุดคลั่ง

Train to Busan “ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง” หนังซอมบี้ ที่เรียกได้ว่าเต็มไปด้วย อารมณ์ที่หลากหลาย ผสมผสานทุกอย่าง ทั้งความรัก โลภ โกรธ และความเห็นแก่ตัว เอาไว้ด้วยกันได้อย่างกลมกล่อม ผ่านทีมนักแสดงที่ สามารถสวมบทบาท เป็นตัวละครได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้แทบลืมไปเลยว่า สิ่งที่กำลังดูอยู่นั้น เป็นเพียงแค่การแสดง บทภาพยนตร์ทำออกมา นอกจากจะน่ากลัวแล้ว ยังให้ความรู้สึกที่กดดัน หมดสิ้นความหวัง ในการพยายามหนีเอาชีวิตรอด

เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็มีพียงกำแพงของ รถไฟความเร็วสูงเท่านั้น บอกได้เลยว่าเป็น หนังซอมบี้ อีกหนึ่งเรื่องที่ ประสบความสำเร็จ อย่างมากเลยทีเดียว ถึงขั้นได้รับรางวัลว่าเป็น หนังซอมบี้ที่ดีมากๆ อีกเรื่องหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นรางวัล นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม รางวัลผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยม

และรางวัลอื่นๆอีกมากมาย กวาดรับคำชมจาก บรรดาคอหนังและ นักวิจารณ์จากทั่วโลกมาแล้ว อย่างล้นหลามจาก เทศกาลจัดงานภาพยนตร์ที่ เมืองคานส์ ในปี 2016 พร้อมนักแสดงนำ ซุปตาร์ตัวพ่ออย่าง “กงยู” ในเรื่องนี้กงยูก็ได้รับบทนำ อย่าง ซอกวู คุณพ่อที่ต้องพาลูกสาว ของตัวเองหนีฝูงซอมบี้คลั่ง

ใจกลางกรุงโซล และยังมีนักแสดง ชื่อดังอีกมากมาย การันตีได้เลยว่า เรื่องนี้ต้องเป็นหนัง ซอมบี้ ที่ฉีกทุกกฎเกณฑ์ ของหนังซอมบี้อย่างแน่นอน ทั้งเหตุการณ์ที่มันน่าตื่นเต้น เร้าใจ และดราม่ามากมาย บอกได้คำเดียวเลยว่า มีน้ำตาไหลกันแน่นอน เรื่องราวต่างๆนั้น ได้เกิดขึ้นที่ประเทศเกาหลี เป็นเรื่องราวของคุณพ่อ

ที่บ้างานแบบสุดๆ จนแทบไม่มีเวลา ให้กับครอบครัวแม้กระทั่ง ภรรยาของตัวเอง ก็ยังทนไม่ได้ จึงต้องขอแยกกันอยู่ ซอกวู จึงได้อาศัยอยู่กับ ซูอัน ซึ่งเป็นลูกสาว และคุณแม่ของตนเท่านั้นภายในบ้าน หลังจากนั้นก็ได้เกิด เหตุการณ์เชื้อไวรัสระบาด กลางกรุงโซล จู่ๆผู้คนก็เกิดการ ติดเชื้อไวรัสจึงเริ่มมีอาการ

คุ้มคลั่งหลังจากนั้น ก็ได้เริ่มเข้าจู่โจมและ กินเนื้อมนุษย์ด้วยกันเอง ณ เวลานั้นประเทศเกาหลี บอกเลยว่าตกอยู่ใน สถานการณ์ที่ โกลาหลเป็นอย่างมาก ทั้งการหนีเอาตัวรอด ของมนุษย์และความคุ้มคลั่ง ของซอมบี้ที่ระบาดไปทั่วเมือง

Train to Busan

เรื่องราวบนรถไฟและฝูงซอมบี้ Train to Busan “ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง” 

เรื่องราวที่เป็นปัญหา ภายในครอบครัวของ ซอกวู เขาเป็นคนทำงานหนักมาก จนไม่มีเวลาให้ครอบครัวเลย จึงทำให้ ซูอัน นั้นเบื่อพ่อของเธอ และได้บอก ซอกวู ว่าเธอนั้นอยากนั่งรถไฟ ไปหาแม่ที่อีกเมืองหนึ่ง ในเกาหลีแต่ ซอกวู นั้นปฏิเสธไปในตอนแรก แต่พอเขานั้นเริ่มหายเหนื่อย จากงานเขาก็ได้ตกลงกับ ซูอัน

ว่าจะพาเธอไปพบแม่ และเรื่องราวสยองขวัญ ก็ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ที่เขา ได้ก้าวเท้าขึ้นรถไฟ เหตุการณ์อันน่ากลัวนี้ ก็ได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อมีผู้โดยสารหนึ่งคน ที่ได้ติดเชื้อไวรัสขึ้นมา บนขบวนรถไฟที่ ซอกวูและซูอันอยู่ หลังจากนั้นผู้โดยสาร ที่ติดเชื้อไวรัสนี้ก็ได้กลางร่างเป็น ซอมบี้คลั่ง และเริ่มทำการเข้าจู่โจม

ทำร้ายผู้โดยสารคนอื่นๆ ในขบวนไปเรื่อยๆ แต่ที่น่ากลัวไปกว่านั้น ไวรัสชนิดนี้สามารถ แพร่ระบาดได้ภายในเวลาแค่ 10 วินาทีเท่านั้น หากถูกกัด หรือมีรอยเล็บข่วน บนร่างกายแม้แต่นิดเดียว ก็ติดเชื้อได้ภายใน 10 วินาที จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ ซอมบี้คลั่งในรถไฟ หลังจากนั้นพวกเขา และคนอื่นๆที่ยังมีชีวิตรอด

ก็ได้รู้ข่าวว่าที่ เมืองปูซาน นั้นยังไม่มีผู้ติดเชื้อ เขาจึงได้ยอมนั่งรถไฟ และเดินทางเพื่อที่จะ ไปที่เมืองปูซาน กับฝูงซอมบี้คลั่ง เรื่องราวจะโกลาหลขนาดไหน ทั้งการโดนซอมบี้ ไล่ล่าตลอดเวลา ทั้งปัญหาภายในครอบครัว อีกทั้งยังต้องเจอกับ สัญชาตญาณดิบ ของมนุษย์ในการ เอาตัวรอดอีกด้วย

ทั้งการหักหลัง หลอกล่อ อีกมากมาย รับรองได้เลยว่า ผู้ชมได้ลุ้นกันแบบ ไม่ติดเก้าอี้แน่นอน สามารถดูได้ทาง Netflix ที่มีทั้งพากย์ไทย และต้นฉบับให้ได้เลือกชม

หนังซอมบี้น่าดู “ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง” ลุ้นระทึกไปกับการเอาชีวิตรอดตลอดเส้นทางกว่า 400 กิโลเมตร

Train to Busan

คอหนังซอมบี้ ไม่ควรพลาดขบวนรถไฟไปปูซาน ซอมบี้วิ่งเร็ว ตื่นเต้น บีบคั้นหัวใจ ภาพดี ซีจีล้ำหน้า ในส่วนของทางดราม่า ก็ทำได้ดีเช่นกัน ใส่ความคิดสร้างสรรค์ และความพิถีพิถัน ในการสร้างอารมณ์ ได้อย่างอยู่หมัดสั่งคนดูได้ จังหวะจะให้ลุ้น จะให้เกลียด จะให้รัก จะให้ซึ้ง ให้ร้องไห้ หรือให้ความหวัง

ราวกับว่าประเทศที่ พัฒนาเต็มตัวแล้ว และเข้าสู่สังคมเมือง สมัยใหม่อย่างเต็มรูปแบบ จะมีปมปัญหาร่วมกัน คือปัญหาสำนึกร่วม ของคนในสังคม ในรูปแบบสังคมเมืองสมัยใหม่ ที่ทุกคนต้องแข่งขัน และจัดการกับ คุณภาพชีวิตของตัวเอง รักษาสถานภาพ ในสังคมจนมีรูปแบบ ของการช่วยเหลือตัวเอง

มีความเป็นปัจเจกชนมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน คนเราสามารถอยู่อย่าง ปัจเจกได้แค่ไหน ในเมื่อเราต่างมีชีวิตอยู่ ด้วยการใช้สอย ผลประโยชน์จาก ทรัพยากรส่วนรวม พึ่งพาอาศัย เบียดเบียน ให้คุณให้โทษ กับชีวิตอื่นๆในสังคม ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โดยเฉพาะตามกฏเกณฑ์ โลกทุนนิยมที่ผู้มี

ความสามารถในการ สะสมทุนย่อมได้เปรียบเสมอ แต่ทุนที่เขาสะสม เป็นของเขาผู้เดียว โดยชอบธรรมแค่ไหน ส่งผลกระทบต่อสังคม ได้นั้นมีความชอบธรรมขนาดไหน ดังนั้นเมื่อผลกระทบ ด้านมืดของสังคมเมือง ก่อตัวเป็นมหันตภัย ฝูงซอมบี้ไล่กัดกิน แพร่เชื้อทำลายชีวิต ผู้คนในสังคม

จำเป็นที่ผู้คนต้องสร้าง สปิริตร่วมมือร่วมใจกันเอาตัวรอด การเสียสละ ไม่เอาแต่รักตัวกลัวตาย หนังมีความค่อนข้าง เชิดชูค่านิยมสถาบันครอบครัว อันเป็นพื้นฐานของ สังคมที่อยู่อย่าง เกื้อกูลได้เป็นอย่างดี

ไม่ใช่แค่หนังที่ซอมบี้ไล่กัดมนุษย์ แต่มนุษย์ก็ยังตีกับมนุษย์ด้วยกันเอง..

ในเมื่อสถานการณ์ มันวิกฤติขั้นสุด หนังสามารถเล่นกับ ประเด็นเรื่องสัญชาตญาณ ของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การที่บางคนเอาตัวรอดไว้ก่อน บางคนนึกถึง ผลประโยชน์ของตัวเอง เทียบไปแล้วก็เหมือน อสูรกายที่บ้าเลือด ที่คิดแต่จะเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ในขณะที่บางคน ยอมเสียสละ

นึกถึงคนส่วนมาก ตัวพระเอกอย่าง ซอกวู เองนั้นแม้ว่าจะเป็นพระเอก แต่ก็ยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่ ดูได้จากประโยคที่บอกซูอัน ลูกสาวของเขาว่า ในสถานการณ์อย่างนี้ ไม่ต้องไปใจดีกับคนอื่น ดูแลตัวเองให้รอดก่อนเป็นพอช ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ถูก ถ้ายังเอาตัวเองไม่รอด การไปช่วยคนอื่น ก็จะยิ่งถ่วงกันเปล่าๆ

แต่ในหลายๆ สถานการณ์ของหนัง เราจะเห็นว่า เมื่อรวมกลุ่มและ ช่วยเหลือกันแล้ว ย่อมสามารถจัดการ แก้ไขปัญหาได้ดีกว่า การผจญภัยครั้งนี้ แลกมาด้วยความสูญเสียมากมาย และสะเทือนใจไป กับการจากไปของ ตัวละครหลายๆตัวเช่นเดียวกัน

สิ่งน่าสนใจเพิ่มเติม : ดูบอล

อ่านบทความรีวิวหนังอื่นเพิ่มเติม : Move to Heaven